กองทุนการศึกษาบุตร Education plan

                                        
กองทุนการศึกษาบุตร Education plan



วางแผนการศึกษาดี...!!ลูกมีแต้มต่อ!!

ทุกลมหายใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ คือ ลูก แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แต่การเลี้ยงลูกยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และใช้เงินไม่น้อย ฉะนั้นต้องวางแผนการเงินให้รัดกุม เพื่อให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีอย่างที่ตั้งใจไว้

หนึ่งในของขวัญชิ้นสำคัญที่พ่อแม่จะมอบให้กับลูกได้ คือการศึกษา ซึ่งของขวัญชิ้นนี้ก็เป็นของขวัญชิ้นใหญ่มากเสียด้วย เพราะตลอดช่วงวัยเรียนของลูก เริ่มจากระดับอนุบาลในวัย 3 ขวบ ไปจนจบปริญญาตรี และบางคนอาจจะต่อเนื่องไปถึงจบปริญญาโทเลยทีเดียว ซึ่งถ้าได้เห็นตัวเลขตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึงปริญญาโท พ่อแม่หลายคนอาจจะตกใจ และอาจจะอุทานว่า ‘มีลูก 1 คนจนไป 10 ปีจริงๆ’  อย่างไรก็ตาม ยังไม่ต้องรีบตกใจไป เพราะเรามีตัวช่วยที่ดีมาแนะนำ นั่นคือการวางแผนการเงินที่ดี สามารถช่วยได้อย่างแน่นอน
กระบวนการวางแผนการศึกษาเพื่อลูกน้อย เริ่มต้นจาก
1. การกำหนดเป้าหมาย โดยกำหนดเป้าหมายว่าอยากให้ลูกได้เรียนหนังสือในสถานศึกษาแบบไหน โรงเรียนรัฐบาล หรือ เอกชน หรือโรงเรียนนานาชาติ และจะส่งลูกเรียนไปจนถึงระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโทเป็นต้น

2. รวบรวมค่าใช้จ่าย เมื่อรู้แล้วว่าอยากให้ลูกได้เรียนในสถานศึกษาแบบใด สถานศึกษาแบบนั้นๆ ก็จะเป็นตัวกำหนดค่าใช้จ่าย

3. คำนึงถึงเงินเฟ้อการศึกษาด้วย เพราะอย่าลืมว่า เงินเฟ้อน่ากลัวกว่าที่คิด โดยเงินเฟ้อการศึกษาเฉลี่ยอยู่ที่ 6% ต่อปี สามารถคำนวณผลของเงินเฟ้อที่ 6% ต่อปีแบบคร่าวๆ ได้โดย ทุกๆ 12 ปี ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ยกตัวอย่างเช่น หากวันนี้มีลูก 1 คน อายุ 6 ปี ต้องการวางแผนการศึกษาในระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเอกชน ค่าใช้จ่ายเพื่อเรียนปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยเอกชน ณ วันนี้ อยู่ที่ 192,000 – 288,000 บาท เมื่อเวลาผ่านไป 12 ปีค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเอกชนจะกลายเป็น 384,000 – 576,000 บาท เป็นต้น

4. วางแผนการออมและการลงทุน ยิ่งรู้ไว เตรียมเงินออมและเงินลงทุนได้ไว จะยิ่งได้เปรียบ เพราะเมื่อมีระยะเวลาลงทุนที่นาน เราสามารถใช้เงินต้นที่ไม่มากในการเตรียมกองทุนเพื่อการศึกษาบุตรได้ โดยที่ไม่เป็นภาระของคุณพ่อคุณแม่เลย เช่น หากต้องการทุนการศึกษาเพื่อเรียนปริญญาตรีที่ 1 ล้านบาท และสามารถหาอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนได้ที่ 6% ต่อปี
    รายละเอียด / อายุของลูกเมื่อเริ่มลงทุนแรกเกิดอายุ 6 ปีอายุ 12 ปี
    ทุนการศึกษาที่ต้องการเพื่อเรียนปริญญาตรี (บาท)1,000,0001,000,0001,000,000
    จำนวนปีที่ลงทุน18126
    อัตราผลตอบแทนคาดหวัง (% ต่อปี)666
    ต้องเตรียมเงินลงทุนต่อปี (บาท)32,35759,277143,363
    หรือคิดเป็นเงินลงทุนต่อเดือน (บาท)2,6964,94011,947
    รวมเป็นเงินต้นทั้งหมดตลอดระยะเวลาการเตรียมเงิน (บาท)582,426711,324860,178
    ดอกผลจากการลงทุน417,574288,676139,822

    จากตารางข้างต้น  ถ้าเรามีการวางแผนการศึกษาบุตรตั้งแต่แรกเกิด เราจะมีระยะเวลาลงทุนยาวถึง 18 ปี ทำให้เงินที่ต้องออมและลงทุนอยู่ที่ 2,696.42 บาทต่อเดือนหรือ 32,357 บาทต่อปี ซึ่งคิดเป็นเงินลงทุนตลอด 18 ปีเท่ากับ 582,426 บาท นั่นก็แปลว่า เราจะใช้เงินต้น 582,426 บาทเพื่อสร้างกองทุนเพื่อการศึกษาบุตรที่ 1,000,000 บาทได้ (ที่อัตราผลตอบแทนคาดหวัง 6% ต่อปี)  ดังนั้นจะเห็นว่า หากมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวกว่า จะใช้เงินลงทุนน้อยกว่า แต่ได้ดอกผลจากการลงทุนที่มากกว่า ดังนั้น วางแผนก่อนประหยัดกว่าจริงๆ
    5. ปกป้องความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านการวางแผนประกันชีวิต เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่เป็นบุคคลที่สำคัญมากที่มีส่วนทำให้ลูกมีการศึกษาที่ดีได้ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้คุณพ่อหรือคุณแม่จากไปก่อนวัยอันควร ก็อาจส่งผลให้มีเงินไม่เพียงพอที่จะส่งให้ลูกเรียนจบดังที่ตั้งใจไว้ คำแนะนำคือ ควรสร้างความคุ้มครองผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิต ด้วยความคุ้มครองชีวิตที่มีทุนประกันเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาลูกทั้งหมด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในยามที่คุณไม่สามารถอยู่ดูแลเขาได้อีกต่อไป

    กล่าวโดยสรุป ในการเตรียมกองทุนเพื่อการศึกษาบุตร การออมก่อน ลงทุนก่อน ได้เปรียบกว่า และควรลงทุนระยะยาวเพื่อให้เงินได้มีโอกาสทำงาน และลดความผันผวนจากการลงทุนได้ ที่สำคัญการลงทุนเพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนคาดหวัง 6% ต่อปี จำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น กองทุนรวมหุ้น เป็นต้น ดังนั้นผู้ลงทุนต้องศึกษาหาความรู้ในการลงทุนให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้การวางแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเตรียมการศึกษาบุตรเป็นไปตามเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้

    บทความโดย นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP® นักวางแผนการเงินอิสระ